วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2554

หน่วยที่ 1 : เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร

เรื่อง กำเนิดเทคโนโลยีสารสนเทศ
.......มนุษย์เป็นสัตว์สังคม มีการตั้งถิ่นฐานอยู่กันเป็นหมู่เหล่าตั้งแต่โบราณกาลมาแล้ว กลุ่มเล็กที่สุดเรียกว่าครอบครัว ถัดขึ้นมาเป็นหมู่บ้าน ตำบล ฯลฯ จนในที่สุดเป็นเมือง เป็นประเทศ มนุษย์แต่ละหมู่เหล่ามีการติดต่อพบปะกัน เพื่อแลกเปลี่ยนอาหาร สิ่งของเครื่องใช้ ยารักษาโรค ฯลฯ ที่ชุมชนตนไม่สามารถผลิตได้หรือผลิตได้ไม่เพียงพอ จนเกิดเป็นการค้าขายระหว่างหมู่บ้าน ระหว่างตำบล เมือง และประเทศ การติดต่อเช่นนี้ ทำให้เกิดการส่งและรับ ข้อมูลข่าวสารถึงกัน แรก ๆ ก็เป็นการบอกกันปากต่อปากต่อมามีการสื่อสารกันด้วยตัวอักษรที่จารึกบนวัสดุต่าง ๆ ซึ่งต่อมากลายเป็นการส่งจดหมายถึงกัน
ความต้องการการสื่อสารด้วยวิธีการที่หลากหลายขึ้นมีความรวมเร็วมากขึ้น ทำให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของเทคโนโลยีโทรคมนาคม ซึ่งอาศัยหลักวิชาทาง วิศวกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ เปลี่ยนคำพูด ข้อความหรือภาพเป็นสัญญาณไฟฟ้าส่งไปตามสาย หรือเปลี่ยนเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (เรียกว่า คลื่นวิทยุ) กระจายไปในอากาศ เมื่อถึงปลายทาง สัญญาณหรือคลื่นที่ส่งไปนั้นก็จะถูกคืนสภาพให้กลับเป็นคำพูด ข้อความหรือภาพเหมือนกับที่ส่งออกไปจากต้นทาง ทำให้ที่อยู่คนละซีกโลกกันสามารถรับรู้ ข้อมูลข่าวของกันและกันได้ภายในชั่วพริบตาเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่เพิ่งมีขึ้นในช่วงเวลาประมาณ 20 ปี ที่ผ่านมานี้เอง เป็นเทคโนโลยีที่เกิดจากการรวมสองเทคโนโลยีเข้าด้วยกัน คือ เทคโนโลยีโทรคมนาคมกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ คำว่า สารสนเทศ หมายถึงตัวเนื้อหาของข้อมูลข่าวสาร เราใช้คอมพิวเตอร์ทำหน้าที่รวบรวม จัดเก็บ ปรับเปลี่ยนรูปแบบของสารสนเทศ และเทคโนโลยีโทรคมนาคมซึ่งพัฒนาเครือข่ายโทรศัพท์และเครือข่ายวิทยุมาสร้างระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขึ้น เป็นการนำเอาความสามารถของคอมพิวเตอร์ (คำนวณ เปรียบเทียบ และตรวจสอบได้รวดเร็ว ถูกต้องแม่นยำ) มารวมกับความสามารถของระบบโทรคมนาคม (ติดต่อได้รวดเร็วและกว้างไกล) ดังนั้น เทคโนโลยีสารสนเทศ จึงหมายถึง เทคโนโลยีที่ใช้ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์มาจัดการกับสารสนเทศนั่นเอง

ประโยชน์และโทษของเทคโนโลยีสารสนเทศ
.......เทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีแห่งยุคที่มีบทบาทในชีวิตประจำวันของมนุษย์ ไม่ว่าจะอยู่ ที่ไหน ไม่สามารถหนีได้ เพราะเทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทครอบคลุมชีวิตมนุษย์ โดยข้อมูลในระบบ ทะเบียนราษฎร์ เป็นสิ่งที่จำเป็นในการพิสูจน์ตัวตน และในการรับบริการสาธารณะต่างๆ เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นเทคโนโลยีที่สนับสนุนทั้งโดยทางตรงและทางอ้อมต่อการผลิตและการดำรงชีวิตต่างๆ ที่สำคัญที่สุด ความรู้และทักษะทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำมาหากินของผู้คนทุกอาชีพ ก็ล้วนแต่ต้องใช้ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ บุคคลที่ไม่มีความรู้ และทักษะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศจะตกเป็นผู้ด้อยโอกาสและผู้เสียเปรียบจนดำรงชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้ ในขณะที่เทคโนโลยีสารสนเทศมีคุณประโยชน์มากมาย เทคโนโลยีสารสนเทศก็มีโทษมากมายเช่นเดียวกัน
กล่าวคือ เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสื่อที่มีความทะลุทะลวงสูง สามารถแทรกซึมเข้าไปได้ถึงทุกครัวเรือน ทำให้เด็กและเยาวชนมีโอกาสได้รับสื่อที่ไม่เหมาะกับวัย หรือเป็นสิ่งมอมเมาได้ง่าย นอกจากนี้เทคโนโลยีสารสนเทศยังเป็นช่างทางของการก่ออาชญากรรมข้ามชาติได้ด้วย
ดังนั้น การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจึงต้องใช้อย่างมีจิตสำนึกและรู้เท่าทัน การใช้อย่างมีจิตสำนึกหมายถึงการใช้ที่มุ่งให้ประโยชน์ทั้งแก่ผู้ใช้เองและแก่ส่วนรวม หลีกเลี่ยงการใช้ที่เป็นโทษหรือเป็นภัยแก่ตนเองเละผู้อื่น ส่วนการรู้เท่าทันหมายถึงต้องเรียนรู้ปัญหาและต้นเหตุของปัญหาในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ และหาทางแก้ไขหรือบรรเทาปัญหานั้น

อ้างอิง   http://kruchuk1.blogspot.com/



.......เทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ ไอที (IT ย่อจาก information technology) หมายถึงเทคโนโลยีสำหรับการประมวลผลสารสนเทศ ซึ่งครอบคลุมถึงการรับ-ส่ง การแปลง การจัดเก็บ การประมวลผล และการค้นคืนสารสนเทศ ในการประยุกต์ การบริการ และพื้นฐานทางเทคโนโลยี สามารถแบ่งกลุ่มย่อยเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ คอมพิวเตอร์, การสื่อสาร และข้อมูลแบบมัลติมีเดีย องค์ประกอบทั้ง 3 ส่วนนี้ ยังต้องอาศัยการทำงานร่วมกัน
บทบาทความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิต เทคโนโลยีทำให้การสร้างที่พักอาศัยมีคุณภาพมาตรฐาน ผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ เทคโนโลยีทำให้มีการติดต่อสื่อสารกันได้สะดวก ติดต่อรับฟังข่าวสารกันได้
เทคโนโลยีเริ่มเข้ามาช่วยในการพิมพ์ ทำให้การสื่อสารด้วยข้อความและภาษาเพิ่มขึ้น เทคโนโลยีพัฒนามาจนถึงการสื่อสารกัน โดยส่งข้อความเป็นเสียงทางสายโทรศัพท์การส่งภาพโทรทัศน์และคอมพิวเตอร์ทำให้มีการใช้สารสนเทศในรูปแบบข่าวสาร ในปัจจุบันมีสถานที่วิทยุ โทรทัศน์ แ ละสื่อต่าง ๆ ในการกระจายข่าวสาร มีการแพร่ภาพทางโทรทัศน์ผ่านดาวเทียมเพื่อรายงานเหตุการณ์สด

นิยามเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศ
คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ ให้เกิดเป็นสิ่งที่เรียกว่าสารกึ่งตัวนำ นำมาผลิตเป็นทรานซิสเตอร์ และไอซี (Integrated Circuit : IC) ไอซีนี้เป็นอุปกรณ์ที่รวมวงจรอิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากไว้ด้วยกัน ใช้เป็นชิพซึ่งเป็นส่วนสำคัญของคอมพิวเตอร์ สารซิลิกอน
ส่วนคำว่าสารสนเทศ หมายถึงข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ ทุกวันนี้มีข้อมูลรอบตัวเรามาก ข้อมูลเหล่านี้มาจากสื่อ เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ หรือแม้แต่การสื่อสารระหว่างบุคคล จึงมีผู้กล่าวว่ายุคนี้เป็นยุคของสารสนเทศ

เมื่อรวมคำว่าเทคโนโลยีกับสารสนเทศเข้าด้วยกัน จึงหมายถึงเทคโนโลยีที่ใช้จัดการสารสนเทศ เป็นเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องตั้งแต่การรวบรวมการจัดเก็บข้อมูล การประมวลผล การพิมพ์ การสร้างรายงาน การสื่อสารข้อมูล ฯลฯ เทคโนโลยีสารสนเทศจะรวมไปถึงเทคโนโลยีที่ทำให้เกิดระบบการให้บริการ การใช้ และการดูแลข้อมูล
เทคโนโลยีสารสนเทศจึงมีความหมายที่กว้างขวาง  การใช้สารสนเทศมีอยู่มาก ดังนี้
§  การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูลเข้าสู่ระบบ
§  การประมวลผล ข้อมูลที่เก็บมาได้มักจะเก็บในสื่อต่าง ๆ เช่น แผ่นบันทึก หรือเทป  ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาประมวลผลตามต้องการ เช่น แยกแยะข้อมูลเป็นกลุ่ม การแสดงผลลัพธ์ อุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์มีมาก สามารถแสดงเป็นตัวหนังสือ เป็นรูปภาพ เป็นต้น
§  การทำสำเนา เมื่อมีข้อมูลที่จัดเก็บในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ การทำสำเนาจะทำได้ง่าย
§  การสื่อสารโทรคมนาคม เป็นวิธีการที่จะส่งจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง หรือกระจายออกไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ
ลักษณะเด่นที่สำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศมีดังนี้
§  เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
§  เทคโนโลยีสารสนเทศเปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งที่จำเป็น สำหรับการดำเนินการในหน่วยงานต่าง ๆ
§  เทคโนโลยีสารสนเทศเกี่ยวข้องกับคนทุกระดับ



ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ผลของเทคโนโลยีสารสนเทศโดยรวมมี   ดังนี้
§  การสร้างเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
§  เสริมสร้างความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาส
§  สารสนเทศกับการเรียนการสอนในโรงเรียน
§  เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม
§  เทคโนโลยีสารสนเทศกับการป้องกันประเทศ
§  การผลิตในอุตสาหกรรม และการพาณิชยกรรม
อ้างอิง  http://junpornmyblog.wordpress.com/

.......บทที่1 ความหมายและบทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
.......1.ความหมายของเทคโนโลยีสารสนเทศ
"เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร(Information Technology) เรียกสั้น ๆ ว่า ไอที" (IT)หรือเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information and Communication Technology) หรือเรียกสั้น ๆว่า "ไอซีที" ประกอบด้วยคำว่า "เทคโนโลยี" และคำว่า "สารสนเทศ" นำมารวมกันเป็น "เทคโนโลยีสารสนเทศ" ซึ่งแต่ละคำมีความหมายดังนี้



1.1 "เทคโนโลยี" (Technology) มีความหมายค่อนข้างกว้างโดยทั่วไป หมายถึงสิ่งที่มนุษย์พัฒนาขึ้น เพื่อช่วยในการทำงานหรือแก้ปัญหาต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ เครื่องมือ เครื่องจักร วัสดุ หรือสิ่งที่ไม่ได้เป็นสิ่งของที่จับต้องได้

1.2 "สารสนเทศ" (Information) หมายถึงข่าวสารที่ได้จากการนำข้อมูลดิบ (Rawdata) จากแหล่งต่าง ๆ นำมาคำนวณทางสถิติหรือผ่านกระบวนการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการเรียกว่า "สารสนเทศ" ข้อมูลที่ได้ออกมาจะอยู่ในรูปที่สามารถนำไปใช้งานได้ทันที

1.3 "เทคโนโลยีสารสนเทศ" หมายถึงการประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาจัดการสารสนเทศที่ต้องการโดยอาศัยเครื่องมือทางเทคโนดลยีใหม่ ๆ เช่น เทคดนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ การเก็บรวบรวมข้อมูล การประมวลผล การแสดงผลลัพธ์ การทำสำเนา และการสื่อสารดทรคมนาคม เพื่อให้ได้สารสนเทส และสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ โดยมีขั้นตอนต่าง ๆ เช่น
การเก็บรวบรวมข้อมูล เป็นวิธีการรวบรวมข้อมูล เช่น แป้นพิมพ์ เครื่องอ่านบาร์โค๊ด รหัสแท่ง
การประมวลผลเป็นการนำข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้มาผ่านการประมวลผลด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ คือ "ชิปซีพียู" ควบคุมการทำงานทุกอย่าง
การแสดงผลลัพธ์ ใช้เทคโนโลยีในการแสดงผลลัพธ์ ได้แก่ ตัวอักษร รูปภาพ หรือเสียง
การทำสำเนา เป็นการทำสำเนาข้อมูล ที่จัดเก็บไว้ในสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ให้มีจำนวนหลายชุด เพื่อสะดวกต่อการเก็บรักษาและการนำไปใช้ เช่น เครื่องพิมพ์ เครื่องถ่ายเอกสาร แผ่นบันทึกข้อมูล อาร์ดดิสก์ หรือแผ่นซีดี
การสื่อสารโทรคมนาคมเป้นวิธีการที่จะส่งข้อมูลจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่งซึ่งอาจส่งกระจายไปยังปลายทางครั้งละมาก ๆ อุปกรณ์ที่ใช้ได้แก่ วิทยุ โทรทัศน์ โทรศัพท์บ้าน โทรศัพท์เคลื่อนที่ เครื่องโทรสาร เครือข่ายคอมพิวเตอร์ คลื่นวิทยุ ดาวเทียม เป็นต้น
"เทคโนดลยีสารสนเทศ" ประกอบขึร้นจากเทคโนโลยีหลักที่สำคัญ 2 สาขา
สาขา 1 เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ หมายถึงเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่สำคัญ ในการเก็บบันทึกข้อมูล การประมวลผลข้อมูล ตลอดจนการนำเสนอข้อมูลในรูปแบบต่าง ๆ เพื่อให้ได้สารสนเทศตามต้องการ
สาขา 2 เทคโนโลยีการสื่อสารและโทรคมนาคม ช่วยทำให้การเผยแพร่และแลกเปลี่ยนสารสนเทศง่ายมากยิ่งขึ้น สามารถกระจายข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วนและทันเหตุการณ์ เช่น เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ วิทยุ หรือโทรทัศน์
.......2.บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ
ความก้าวหน้าทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์เป็นอันมาก อาทิเช่น
1. เทคโนโลยีช่วยเสริมปัจจัยพื้นฐาน เช่น การเพาะปลูก ที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่มยารักษาโรค
2. เทคโนโลยีช่วยทำให้มนุษย์มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เช่น สร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน เป็นต้น
3. เทคโนโลยีช่วยทำให้การผลิตสินค้าและให้บริการต่าง ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของมนุษย์ได้มากขึ้น เช่น การดูสินค้าหรือราคา การสั่งซื้อสินค้าทางโทรศัพท์ หรือทางอินเทอร์เน็ต เป็นต้น
4. เทคโนโลยีช่วยทำให้ระบบการผลิต สามารถผลิตสินค้าทำได้จำนวนมาก มีราคาถูกลง และได้สินค้าที่มีคุณภาพ
5. เทคโนโลยีช่วยทำให้การติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วการสื่อสารที่เชื่อมโยงกันอย่างทั่วถึงทำให้ประชากรในโลกสามารถติดต่อสื่อสารและรับฟังข่าวสารจากทั่วทุกมุมโบกได้ตลอดเวลา

.......3.เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคม
เทคโนโลยีสื่อสารโทรคมนาคมใช้ในการติดต่อสื่อสาร รับส่งข้อมูลจากที่ไกล ๆ เป็นการส่งข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ ช่วยให้การเผยแกร่ข้อมูลหรือสารสนเทศไปยังผุ้ใช้ในแหล่งต่าง ๆ เป้นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วนและทันการณ์ ซึ่งรูปแบบของข้อมูลที่รับส่งอาจเป้นตัวเลข ตัวอักษร ภาพ และเสียง
.......3.ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ
เนื่องจากองค์ประกอบต่าง ๆ ของเทคโนดลยีสารสนเทศ มีการพัฒนาให้มีความสามารถและมีประสิทธภาพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้องค์กรธุรกิจต้องนำความสามารถและความรวดเร็วของเทคโนโลยีสารสนเทศมาช่วยในการดำเนินงานด้านต่าง ๆ เพื่อยกระดับความสามารถและศักยภาพของตนให้เหนือคู่แข่งขัน เช่น งานด้านการติดต่อสื่อสาร การวางแผน การตัดสินใจ และการจัดการ เป็นต้น

เทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร

.......เทคโนโลยีสารสนเทศ คือ เทคโนโลยีในการนำคอมพิวเตอร์มาใช้งานจัดการกับข้อมูล ข่าวสาร หรือที่เรียกว่าสารสนเทศ ศาสตร์ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเป็นศาสตร์ที่ใหม่มาก และมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบัน และถือเป็นหนึ่งในสามศาสตร์หลัก (เทคโนโลยีสารสนเทศ เทคโนโลยีนาโน เทคโนโลยีชีวภาพ) ที่ถูกกล่าวว่าจะมีผลต่อสังคมในอนาคตมากที่สุด โดยปัจจุบัน มีผู้กล่าวถึง เทคโนโลยีสารสนเทศกันอย่างกว้างขวาง โดยเราจะรู้จักกันทั่วไปในชื่อสั้นๆ ว่า ไอที (IT) รัฐบาลไทยเองก็เล็งเห็นความสำคัญด้านนี้มาก จึงมีการจัดตั้งกระทรวงใหม่ที่เกี่ยวกับงานทางด้านนี้ขึ้น ชื่อกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือเรียกย่อๆ ว่า กระทรวงไอซีที
.......เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นมีลักษณะเด่นคือมีการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วมาก เทคโนโลยีใหม่ๆ ที่ทันสมัยเกิดขึ้นมาเรื่อยๆ ทุกวัน เช่น เราจะเห็นว่ามีการใช้อินเตอร์เน็ตกันอย่างแพร่หลาย มีการส่งอีเมล์ มีการท่องเว็บต่างๆ มีการส่งข้อมูลผ่านเว็บ มีการเล่นเกมออนไลน์ผ่านอินเตอร์เน็ต นอกจากอินเตอร์เน็ตแล้ว ยังมีเทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวกับมือถือ เช่น มีการส่งข้อมูลผ่านทางมือถือ มีการดาวโหลดข้อมูลต่างๆ รวมทั้งเพลงผ่านมือถือ มีการสืบค้นข้อมูลหรือเล่นเกมผ่านมือถือ เป็นต้น ในทางอุตสาหกรรมก็มีการนำระบบสารสนเทศเข้าไปช่วยเพิ่มผลผลิตในโรงงาน ช่วยควบคุมดูแลเครื่องจักรเพื่อผลิตสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ และทำให้กระบวนการผลิตเป็นแบบอัตโนมัติ นอกจากนี้มีการนำสารสนเทศไปใช้ในงานด้านธุรกิจเพื่อทำให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ โดยสามารถดูข้อมูลต่างๆ ได้ทันทีทั้งข้อมูลที่เป็นรายละเอียดและข้อมูลสรุป และช่วยในการสนับสนุนการตัดสิน บริษัทที่ทันสมัยทุกบริษัทต้องมีระบบสารสนเทศภายในองค์กร ในยุคต่อไป คอมพิวเตอร์จะมีขนาดเล็กลง มีความเร็วสูงขึ้น และมีหน่วยความจำมากขึ้น และที่สำคัญ ราคาของคอมพิวเตอร์จะถูกลงมาก ดังนั้นคอมพิวเตอร์จะเข้ามามีบทบาทในสังคมของเรามากขึ้น โดยเราจะเรียกสังคมนี้ว่าสังคมยูบิคิวตัส (Ubiquitous) คือคอมพิวเตอร์อยู่ทุกหนทุกแห่ง ดังนั้นการจัดการข้อมูลสารสนเทศที่เกิดจากคอมพิวเตอร์เหล่านี้ จึงเป็นสิ่งสำคัญมาก นอกจากนี้การบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศภายในบริษัทก็เป็นสิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่ง จะเห็นได้ว่าบริษัทหรือองค์กรใหญ่จำเป็นต้องมีหน่วยงานด้านการจัดการระบบสารสนเทศ ปัจจุบันในโลกของธุรกิจ มีธุรกิจที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากมาย ซึ่ง นักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดก็คือ นักธุรกิจด้านไอที ซึ่งความจริงนี้แสดงให้เห็นว่า ไอทีได้เป็นศาสตร์ที่รับความสนใจและมีความสำคัญมากในสังคมปัจจุบันและต่อไปในอนาคต

......เทคโนโลยีสารสนเทศต่างกับวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างไร

 

.......คำถามที่ถูกถามบ่อยๆ ข้อหนึ่งก็คือ เทคโนโลยีสารสนเทศต่างกับวิทยาการคอมพิวเตอร์อย่างไร ที่จริงแล้วสองสาขานี้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันมาก โดยวิทยาการคอมพิวเตอร์นั้นถือกำเนิดมาก่อนเทคโนโลยีสารสนเทศ และจะเน้นด้านทฤษฏีเป็นหลัก โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับ โครงสร้างของเครื่องคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของเครื่องคอมพิวเตอร์ การผลิตซอฟต์แวร์ที่มีขนาดใหญ่ให้มีประสิทธิภาพ การนำคอมพิวเตอร์มาใช้กับงานชั้นสูงที่มีความซับซ้อนมาก จุดเด่นของวิทยาการคอมพิวเตอร์คือ เน้นศึกษาวิธีการทำให้คอมพิวเตอร์มีสมรรถนะที่สูงขึ้น และศึกษาวิธีการผลิตซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพเพื่อใช้งานคอมพิวเตอร์ให้เกิดประโยชน์สูงที่สุด
สำหรับเทคโนโลยีสารสนเทศหรือไอทีนั้น ได้ถูกกล่าวถึงกันมากในช่วงสิบกว่าปีที่ผ่านมานี้เองหลังจากอินเตอร์เน็ตเป็นที่แพร่หลาย โดยเทคโนโลยีสารสนเทศจะเน้นการประยุกต์ใช้งานคอมพิวเตอร์ในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานด้านธุรกิจ งานด้านการสื่อสาร งานในสายการผลิต งานด้านบริการ เป็นต้น เทคโนโลยีสารสนเทศนั้นค่อนข้างเปลี่ยนแปลงรวดเร็ว โดยจะมีเทคโนโลยีใหม่ๆ เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา จุดเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศคือ เน้นศึกษาวิธีการนำคอมพิวเตอร์ไปประยุกต์ใช้งาน จัดการเกี่ยวกับข้อมูลข่าวสารหรือสารสนเทศ ซึ่งรวมไปถึงเทคโนโลยีระบบเคลื่อนที่ เช่น มือถือ และการจัดการธุรกิจและการลงทุนที่เกี่ยวกับสารสนเทศ

บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารที่มีต่อมนุษย์

.......ปัจจุบันเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเข้ามามีบทบาทสำคัญอย่างมากในชีวิตประจำวันของมนุษย์ เนื่องจากมนุษย์มีความต้องการสิ่งต่างๆเพื่อตอบสนองความต้องการของตนมากขึ้น จึงทำให้มีการพัฒนาคิดค้นสิ่งอำนวยความสะดวกสบายต่อการดำชีวิตเป็นอันมาก เทคโนโลยีได้เข้ามาเสริมปัจจัยพื้นฐานการดำรงชีวิตได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นทางด้านการติดต่อสื่อสาร หรือการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ถือได้ว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีเหล่านั้นได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว
........คำว่าเทคโนโลยี หมายถึง การประยุกต์เอาความรู้ทางด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์ การศึกษาพัฒนาองค์ความรู้ต่าง ๆ ก็เพื่อให้เข้าใจธรรมชาติ กฎเกณฑ์ของสิ่งต่าง ๆ และหาทางนำมาประยุกต์ให้เกิดประโยชน์ เทคโนโลยีจึงเป็นคำที่มีความหมายกว้างไกล เป็นคำที่เราได้พบเห็นและได้ยินอยู่ตลอดมา เทคโนโลยีที่เราพบได้มากในปัจจุบันมีมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีด้านการสื่อสาร โทรศัพท์มือถือ หรือด้านการค้นหาข้อมูล ในคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ต โดยจากสถิติในปีพ.ศ. 2547-2550 ได้สำรวจการใช้คอมพิวเตอร์อินเตอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ โดยในปีพ.ศ. 2547 มีผู้ใช้โดยเฉลี่ยรวม 20.9% ในปีพ.ศ. 2548 มีผู้ใช้โดยเฉลี่ยรวม 24.4% ในปีพ.ศ. 2549 มีผู้ใช้โดยเฉลี่ยรวม 27.2% และในปีพ.ศ. 2550 มีผู้ใช้โดยเฉลี่ยรวม 29.9% ซึ่งถือว่ามีอัตราการใช้โดยเฉลี่ยสูงขึ้นเรื่อยๆ และโทรศัพท์มือถือเป็นเทคโนโลยีที่มีผู้ใช้สูงสุด จึงทำให้ในปัจจุบัน มีการแข่งขันด้านการผลิตเทคโนโลยีใหม่ๆเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือมากขึ้น ทั้งยังมีการคิดค้นโปรแกรมต่างๆที่เพิ่มความสะดวกสบายให้กับมนุษย์ จึงเป็นการกระตุ้นความต้องการของมนุษย์เข้าไปอีก
....... ความสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารนั้นมีมากมาย ทั้งในการด้านการส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นมีการพัฒนาใช้ระบบสื่อสารโทรคมนาคม เพื่อติดต่อสื่อสารให้สะดวกขึ้น ทำให้เกิดความเท่าเทียมในสังคมและการกระจายโอกาสการเรียนรู้ไปได้ทุกหนแห่งแม้ในถิ่นทุรกันดาร ด้านการเรียนการสอนมีการนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใช้ประกอบช่วยในการเรียนรู้ เช่น วีดีทัศน์ เครื่องฉายภาพ หรือคอมพิวเตอร์ ด้านสิ่งแวดล้อม ในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติก็จำเป็นต้องใช้สารสนเทศเช่นกัน ในการ ถ่ายภาพจากดาวเทียม หรือการติดตามสภาพภูมิอากาศ เป็นต้น
....... จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีสารสนเทศมีประโยชน์หลากหลายต่อมนุษย์ทั้งยังมีความเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของมนุษย์ในทุกๆด้าน เยาวชนรุ่นใหม่ควรเรียนรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้นเพื่อจะได้ใช้ได้อย่างถูกวิธี และเพื่อจะได้นำสิ่งเหล่านี้ไปใช้เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาวิทยาการต่างๆให้ก้าวหน้าและเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติต่อไป